Lost in Blue ระหว่างเราครั้งก่อน หนังสั้นกวาดรางวัลเพียบ สายหนังอาร์ตต้องชม

รีวิว Lost in Blue: ระหว่างเราครั้งก่อน

สำหรับในวันนี้ทางเราขอนำเสนอ หนังไทยแนะนำ หนังสั้นที่เรียกได้ว่าน่าสนใจมากๆ อย่าง Lost in Blue ระหว่างเราครั้งก่อน 

ภาพยนตร์ผลงานเรื่องแรก ๆ ของสองสาวสุดฮอตขวัญใจหนุ่มๆอย่าง วี วิโอเลต วอเทียร์และ ก้อย อรัชพร กับการถ่ายทอดเรื่องราวที่มีความเป็นธรรมชาติและความเรียล ที่มีฉากและภาพที่สวยงามมากๆ รวมถึงตัวบทและการแสดงของนักแสดงต่างก็เป็นอีกความสำคัญของหนังสั้นเรื่องนี้ ที่เป็นจุดดึงดูดให้หนังมีความน่าสนใจและน่าติดตามชม ตามไปชมแบบวีไอพีได้ที่ doonungvip.com

lost in blue ฉากทะเล

ข้อมูลทั่วไป

ระหว่างเราครั้งก่อน เป็นการถ่ายทอด 3 เรื่องสั้นที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับความรักครั้งแรกที่ทำให้รู้จักการอกหักกับความยาวทั้งหมดเพียง 1ชั่วโมง 19 นาที ในภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งสามเรื่อง ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างวัยรุ่นที่กำลังเติบโตในแบบของตัวเอง

โดยแต่ละเรื่องมีเนื้อหาและมุมมองที่แตกต่างกัน ที่เน้นถึงความหลากหลายและความรู้สึกนึกคิดของวัยรุ่นในสถานการณ์ที่ซับซ้อน

lost in blue วี วิโอเล็ต

ชื่อภาพยนตร์ ระหว่างเราครั้งก่อน

ผู้กำกับภาพยนตร์: จิรัศยา วงษ์สุทิน (“วันนั้นของเดือน”), เอกพงษ์ สราญเศรษฐ์ (“ฝน”), ปภาวี จิณสิทธิ์ (“Glowstick”)

ผู้เขียนบทภาพยนตร์: จิรัศยา วงษ์สุทิน (“วันนั้นของเดือน”), เอกพงษ์ สราญเศรษฐ์ (“ฝน”), ปภาวี จิณสิทธิ์ (“Glowstick”)

นักแสดงนำ: วิโอเลต วอเทียร์, อรัชพร โภคินภากร, พริมรัน พัวรัตน์, จิราพร แซ่ลี้, ธนกร ศิริปัทมาธร

แนว/ประเภท: ดราม่า

ความยาว: 1ชั่วโมง 19 นาที

ประเทศ: ไทย

วันเข้าฉายในประเทศไทย: 22 กันยายน 2559 (เฉพาะในโรงภาพยนตร์ในเครือ SF)

ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: HAL Distribution

เนื้อเรื่อง

เรื่องที่1

ฝน” ที่ถูกกำกับโดย เอกพงษ์ สราญเศรษฐ์ เรื่องราวของ ฝน (พริมริน พัวรัตน์) และ หนึ่ง (ธนกร ศิริปัทมาธร)

คู่รักวัยมัธยมชายหญิงที่มาจากภาคใต้ เรื่องราวใน “ฝน” เป็นเรื่องรักครั้งแรกของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีความอยากรู้และลองสัมผัสความรัก แต่ต้องเผชิญกับสภาวะที่ต้องซ่อนและหลบเลี่ยงเนื่องจากมุมมองและค่านิยมที่มาจากพ่อแม่ในสังคมไทย ซึ่งมองว่าความรักในวัยเรียนเป็นเรื่องซับซ้อนเหมือนจุดเทียนกลางสายฝน

lost in blue ก้อย อรัชพร

เรื่องที่2

“วันนั้นของเดือน” เป็นเรื่องราวที่นำแสดงโดย ก้อย อรัชพร (ดิว ฮอร์โมนส์) และ ลี้ จิราพร เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสองสาวเพื่อนที่เป็นเพื่อนซี้และมีประจำในการมาพร้อมกันทุกเดือน พฤติกรรมของสองสาวเพื่อนซี้ถูกพลิกผันเมื่อมีคนหนึ่งมีแฟน ทำให้ประจำเดือนของพวกเธอมาไม่พร้อมกันอีกต่อไป

เรื่องที่3

“Glowstick” เป็นเรื่องราวที่เล่าเรื่องของสองสาวเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมานานและเป็นเพื่อนรูทเมทกัน โดยคนหนึ่งในพวกเธอได้รับของขวัญวันเกิดที่นำมาสู่การเรียกคืนความทรงจำเก่าเกี่ยวกับความรักในอดีต

นักแสดง และความประทับใจจากบทบาทที่ได้รับ

1.พริมริน พัวรัตน์ แสดงเป็น ฝน

2.ธนกร ศิริปัทมาธร แสดงเป็น หนึ่ง

3.อรัชพร โภคินภากร แสดงเป็น ก้อย/โญ๋

4.จิราพร แซ่ลี้ แสดงเป็น ลี้

5.วิโอเลต วอเทียร์ แสดงเป็นพิม

ระหว่างเราครั้งก่อน ฉากก้อยว่ายน้ำ

พริมริน และ ธนกร แสดงเป็นเด็กมัธยมกันได้ค่อนข้างดี ถ่ายทอดความอยากรู้อยากเห็นอยากลองของวัยรุ่นออกมาได้อย่างชัดเจน รวมถึงการแสดงของก้อย อรัชพร ในบทบาทของหญิงสาววัยว้าวุ่นช่วงที่มีประจำเดือน ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครได้อย่างน่าทึ่งและเป็นธรรมชาติมากๆ

โดยเฉพาะในบทบาทที่ต้องเปลี่ยนแปลงและปรับตัวในสถานการณ์ที่ซับซ้อนและต้องเผชิญกับความสับสนและความรู้สึกที่ซับซ้อนของตัวละครในช่วงที่มีประจำเดือน

ความรู้สึกหลังดู Lost in Blue ระหว่างเราครั้งก่อน

เรื่องที่1

ฝน กับการถ่ายทอดรักที่เกิดในห้องเรียน ความอยากรู้และความกระตือรือร้นของวัยรุ่นทำให้พวกเขาเดินทางในเส้นทางของความรักครั้งแรก เรื่องราวเริ่มขึ้นในวันที่ฝนตก

โดยเด็กสองคนได้พบกันและเริ่มคุยกัน โดยฉากเปิดตัวถูกถ่ายทำอย่างสวยงามที่เน้นให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนถูกพาเข้าสู่เรื่องราวในหนัง

ตอนแรกมีการปูเรื่องให้ชวนคิดว่าเนื้อเรื่องจะเป็นเรื่องเซ็กซ์แรง ๆ แต่พอเอาเข้าจริงๆ กลับไม่ได้แรงอะไรขนาดนั้น หนัง เน้นการสื่อสารมุมมองของผู้ใหญ่ในสังคมต่อวัยรุ่นขณะที่พวกเขากำลังเติบโต

โดยเฉพาะในเรื่องปัญหาของครอบครัว ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในวัยรุ่น การที่หนังนำเสนอแง่มุมความคิดนี้ สามารถถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดี แถมยังเตือนใจวัยรุ่นเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตจริง

ผู้กำกับได้นำเสนอภาพที่สวยงามและมูดแอนด์โทนที่ดีเพื่อเสนอให้ผู้ชมเข้าถึงบรรยากาศและความรู้สึกในเรื่องราว และเนื้อหาของเรื่องยังได้สะท้อนถึงความรักในวัยเรียนของเด็กม.1 ที่เป็นการเริ่มต้นความสำคัญของความรู้สึกในวัยเยาว์

นอกจากนี้เรื่องยังนำเสนอประเด็นครอบครัวและการเลี้ยงดูลูกที่เป็นปัญหาในสังคมไทย โดยการไม่สนับสนุนความรักในวัยเรียนและการห้ามเรื่องเซ็กส์ในวัยเรียน อาจส่งผลให้เด็กฝ่าฝืน ลองสัมผัส และทำสิ่งต่าง ๆ โดยไม่มีความรู้และเข้าใจที่เพียงพอ ซึ่งอาจสร้างปัญหาและความเสี่ยงให้กับเด็กในอนาคต

ผลงานนี้ทั้งหมดนำเสนอเรื่องราวและประเด็นที่สำคัญอย่างถูกต้อง และในทางอารมณ์สื่อถึงความเป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้นในสังคมเรา ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ชมเริ่มคิดว่าความเข้าใจและการสนับสนุนในครอบครัวนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างสังคมที่เข้าใจและรับรู้ความเปลี่ยนแปลงในวัยรุ่นได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

ระหว่างเราครั้งก่อน ฉากก้อยกับวี

เรื่องที่2

“วันนั้นของเดือน” ถูกกำกับโดย จิรัศยา วงษ์สุทิน เป็นเรื่องราวเล็ก ๆ ที่เล่าถึงวันนั้นของเดือนของสองสาวเพื่อนซี๊ ก้อย (อรัชพร โภคินภากร) และ ลี้ (จิราพร แซ่ลี้) ที่นั่งข้างกันในห้องเรียน ที่มีประจำเดือนพร้อมกันในทุกๆเดือน

ความสนิทสนมที่พวกเธอมีกันเป็นเรื่องน่าพิเศษมากๆ แบบมองตาก็รู้ใจอะไรแบบนั้นเลย คือคุยได้ทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องของประจำเดือนของก้อยที่ไม่มาตามกำหนด ซึ่งครั้งแรกที่ประจำเดือนของก้อยไม่ได้มาพร้อมกับลี้ 

บทสนทนาและการพูดคุยของสองสาวเป็นสิ่งที่เข้าใจและสามารถเกิดขึ้นจริงในวัยรุ่นได้โดยเฉพาะ การพูดถึงเรื่องประจำเดือนอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญและมีความเป็นธรรมชาติในชีวิตของผู้หญิง

นอกจากนี้ การแสดงของทั้งสองนักแสดง ก้อย และ ลี้ ยังเป็นจุดเด่น เพื่อนสนิทที่มีความเข้าใจกันอย่างดีและสามารถแสดงความรู้สึกและอารมณ์ได้อย่างน่าเชื่อถือ ผ่านเรื่องราวที่เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่มีความหมายที่สำคัญ “วันนั้นของเดือน” สร้างความสนุกและความประทับใจให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี

เรื่องที่3

“Glowstick” คือภาพยนตร์สั้นที่ถูกกำกับโดย ปภาวี จิณสิทธิ์ เป็นเรื่องสุดท้ายในซีรีส์  ซึ่งเล่าเรื่องราวระหว่างเพื่อนสนิทที่เช่าหอพักอยู่ด้วยกัน คือ พิม (วี วิโอเลต วอเทียร์) และโญ๋ (อรัชพร โภคินภากร) พวกเขามีกิจกรรมห่ามๆ ร่วมกันและมีบทสนทนาที่ได้สะท้อนถึงความคิดและจิตใจของวัยรุ่น

ภาพยนตร์นี้ได้รับรางวัลชมเชยช้างเผือกปี 2015 จากเทศกาล Thai Short Film & Video และยังทำให้นักแสดงนำอย่าง ก้อย อรัชพร ได้รับรางวัลนักแสดงดีเด่นในปีนั้นเช่นกัน

เรื่องราวในภาพยนตร์สั้นนี้เป็นการเล่าเรื่องราวของสองเพื่อนสนิทที่กำลังเติบโตในวัยรุ่น พิมและโญ๋ กับกิจกรรมและบทสนทนาที่เกิดขึ้นระหว่างสองคนที่เป็นแบบ “หญิง-หญิง” ซึ่งมีความเป็นธรรมชาติมากๆ เรื่องราวนี้ เราได้เห็นความคิดและสิ่งที่เด็กวัยรุ่นจะต้องพบเจอในชีวิตประจำวัน

“Glowstick” ถูกใช้เป็นตัวแทนสัญลักษณ์ของสิ่งบางอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของหนึ่งในสองเพื่อนซี้ ภาพยนตร์สร้างความตื่นเต้นและทำให้เราได้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงและการเจริญเติบโตที่เกิดขึ้นในวัยรุ่น ให้ผู้ชมเข้าใจและรับรู้ความหมายอย่างเต็มที่

หนังสั้นนี้เริ่มต้นด้วยการที่วี และก้อย ทั้งสองเป็นนักแสดงที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง แม้ว่าในช่วงเวลานั้นพวกเธออาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักในวงการมากนัก แต่ผลงานนี้เป็นโอกาสที่นำเสนอศักยภาพและความสามารถของพวกเธอให้กับผู้ชม และเป็นแรงบันดาลใจในการเติบโตและพัฒนาตนเองในอนาคตในวงการบันเทิงของพวกเธอ

สิ่งที่หนังสื่อสารกับผู้ชม

Lost in Blue ได้สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญและหลากหลายที่ถูกนำเสนอในทั้งสามเรื่องนี้ แม้ว่ามีหัวข้อและมุมมองที่แตกต่างกันในแต่ละเรื่อง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กลายเป็นจุดศูนย์กลางที่น่าสนใจที่ผู้กำกับและเรื่องราวทั้งสามกำลังสร้างขึ้น

ในเรื่อง “ฝน ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากความแปลกหน้า และความเคอะเขินในการติดต่อกับเพศตรงข้ามเป็นเรื่องที่สำคัญและอ่อนไหวทางสังคม

อาจเกิดจากความไม่แน่ใจ หรือความกังวลในการพูดคุยหรือทำความรู้จักกับเพศตรงข้าม รวมถึง เรื่องราวของความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ และวัยรุ่นที่กำลังมีความรักในวัยเรียน

lost in blue รางวัลก้อย

ส่วนในเรื่อง “วันนั้นของเดือน” เป็นความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนสองคนที่มีประจำเดือนพร้อมกัน กลายเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเธอรู้จักและเข้าใจกันมากขึ้น

การเปิดเผยความลับ เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นและความเข้าใจในความสัมพันธ์ และความสนิทสนมของตัวละครได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ในเรื่อง “Glowstick” การใช้ของขวัญวันเกิดเพื่อนเพื่อให้เกิดความคืบหน้าในความสัมพันธ์ระหว่างพิมและโญ๋ เป็นการแสดงถึงความรักและความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนอย่างชัดเจน

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและความเป็นจริงของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ในสังคม ซึ่งผ่านการกำกับและการนำเสนอของผู้กำกับแต่ละคน ได้นำเสนอมุมมองที่หลากหลายเกี่ยวกับความสัมพันธ์และประสบการณ์ที่มนุษย์สามารถเจอในชีวิตทุกวันได้

สรุปภาพรวม Lost in Blue ระหว่างเราครั้งก่อน

หนังเรื่องนี้เป็นผลงานโปรเจคต์จบของนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้รวมเรื่องสั้นสามเรื่องเข้าด้วยกันในรูปแบบหนังเรื่องเดียว

โดยหนังสั้น 3 เรื่องนี้ได้ถูกนำมารวมเข้าด้วยกันในโปรแกรมหนังสั้นที่ชื่อว่า “Lost in Blue ระหว่างเราเมื่อครั้งก่อน” เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ชมหลากหลายกลุ่มได้รับชมและพูดถึงเรื่องราวที่แตกต่างกันและมีความหมายที่หลากหลาย ในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ การนำเสนอความลึกซึ้งและความเปิดเผยของความลับในเรื่องราวแต่ละเรื่องเพื่อสร้างความสนใจและความติดตามในการดูหนังสั้นนี้

ระหว่างเราครั้งก่อน รางวัลวี

หนังสั้น Lost in Blue ได้เรียกใช้ทุกองค์ประกอบอย่างลงตัวเพื่อสร้างประสบการณ์ที่มีความเรียลและเป็นธรรมชาติอย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวโปรดักชันที่มีความเป็นธรรมชาติที่เข้ากับบทสรุปได้อย่างสมบูรณ์, ตัวบทที่ชัดเจนและอารมณ์ที่ถูกส่งถึงอย่างน่าประทับใจ, และการแสดงที่น่าสัมผัสเหมือนคุณกำลังเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว

symbolic ในเรื่องเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างความน่าสนใจและความลึกซึ้งให้กับหนัง

หนังเรื่องนี้นั้นอยู่ในระดับคุณภาพที่ยอดเยี่ยมเพื่อเป็นหนึ่งในตัวอย่างของฝีมือและความสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในวงการหนังไทย มันเป็นหนังที่สร้างความสนใจและแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ที่มี อย่างน่าประทับใจ

ดูหนังสั้นสุดประทับใจจบแล้ว เรามาเบรคอารมณ์กันหน่อยกับ Freelance หรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ สุดยอดหนังฟีลกู๊ด สไตล์ต้นตำรับอย่าง GDH เราแนะนำให้ชมต่อเนื่องกับไปเลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *