คงจะต้องบอกเลยว่าหนุ่มสาววัยรุ่นยุคใหม่ในสมัยนี้ อาจจะไม่น่าจะมีคนไหนเกิดทัน เรื่องราวต้นกำเนิดของหนังเรื่องนี้กันอย่างแน่นอนค่ะ นี่น่าจะเป็นหนังไทยแนะนำ ที่จะนำพาคนสมัยใหม่ ผู้ที่เกิดหลังสงครามโลกครั้งที่สอง หรือคนช่วงต้น ๆ เจเนอเรชั่นเอ็กซ์ ได้ย้อนกลับไปนึกถึงและถลิวหาย้อนวันวานในอดีตกาลที่เคยหวานชื่น เพราะว่าสมัยก่อนคู่รักวัยรุ่นในตำนานภาพยนตร์ไทย ‘ตั้ม’ กับ ‘โอ๋’ ได้กลับมาอีกรอบใน วัยอลวน 5 ภาพยนตร์ภาคต่อที่ยังคงสานต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยผ่านมาแล้วถึง 40 ปี

วัยอลวนห้า ชื่อเรื่องที่เป็นคำที่ออกเสียงเหมือนกันที่คงจะรู้กันแล้วว่า นี่เป็นหนังภาคที่ 5 ของหนังชุด “วัยอลวน” ที่มีจุดเริ่มแรกตั้งแต่ปี 2519, 2520 และก็ 2521 เป็นลำดับ จากหนังภาคต่อที่ไล่เรียงมาตั้งแต่ “วัยอลวน”, “รักอุตลุด” และ “ชื่นชุลมุน” และก็ยังมีอีกภาคที่ล้ำสมัยขึ้นมาหน่อยใน “วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น” ที่เคยออกฉายในปี 2548 ก่อนหน้าที่ผ่านมา

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังคงจุดโฟกัสอยู่ที่ชีวิตของ ตั้ม กับ โอ๋ ที่ยังครองรักรวมทั้งเป็นคู่สามีภรรยามายาวนาน พวกเขาอายุย่างไปสู่วัยปลดเกษียณแล้ว แม้กระนั้นยังจำเป็นต้องเผชิญหน้ากับปัญหาใหม่ๆที่เข้ามาในชีวิตเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาความรักวุ่นวายของ โต๋ หลานชายที่พึ่งจะกลับมาจากอเมริกา จะต้องดำเนินรอยตามเช่นเดียวกับเขาตอนวัยรุ่นเป๊ะ ๆ กับการผ่านด่านสุดหินพิชิตพ่อของแฟนสาว นั่นก็คือ คุณอั้ม เป็นรักรุ่นใหม่และรักครั้งใหม่ จะสำเร็จหรือไม่ยังไงก็ลองไปติดตามดูได้ในเรื่องนี้เลยค่ะ หรือเพื่อนคนไหนจะลองอ่านรีวิวหนังของเราก่อน ติดตามอ่านได้ ที่ด่านล่างนี้เลย และทีมงานขอแนะนำ เว็บดูหนังออนไลน์ คุณภาพระดับวีไอพี เชิญเข้าไปรับชมได้เลยที่ doonungvip.com

ความทรงจำคู่ขวัญ ตั้ม-โอ๋ จะถูกปัดฝุ่นอีกรอบ กับเรื่องความรักอลหม่านของ ตั้ม-โอ๋(แสดงโดย เอ๋-ไพโรจน์ รวมทั้ง จิ๋ม-ลลนา สุลาวัลย์) ที่หากแม้เวลาจะผ่านไป 45 ปี แต่ว่าชีวิตของการการเป็นสามีภรรยาก็ยังมีเรื่องมีราววุ่นๆมาให้แก้ตลอด ด้าน ป้าอ้อ หรือ นักจัดรายการวิทยุออดี้ (สวมบทโดย อ้อย-จิระวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา) หลังเปิดตัวว่าเป็นสาวห้าว ก็ไปหลงรัก “ต้องใจ” (แสดงโดย จิ๊บ-ปกฉัตร เทียมชัย) แม่ม่ายลูกติดว่าที่เศรษฐินีคนใหม่ของไทย 

แม้กระนั้นดันเจอกรรมบัง เดือดร้อนทนายตั้มจำต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ในตอนที่ “อั้ม” (สวมบทบาทโดย พิม-พิมประภา ตั้งประภาพร) คุณครูสอนเต้นดีกรีเด็กนักเรียนนอก โกรธพ่อ ภาคิน (แสดงโดย แต๋ม-ชรัส เฟื่องอารมย์)นักธุรกิจรุ่นใหญ่ เนื่องจากมีความรู้สึกว่าพ่อมีเมียน้อย ทะเลาะเบาะแว้งกับแม่ ก็เลยทำให้แม่ขับรถออกไปเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต 

และก็ตอนหลังยังเป็นกิ๊กกับ นับดาว (รับบทบาทโดย เฟิร์น-พัสกร พลบูรณ์) เลขาสาว ก็เลยประชดประชันพ่อด้วยการคบกับ โต๋ (แสดงโดย แน็ก-ชาลี ปอทเจส) หลานชายดีกรีเด็กนักเรียนนอกของ ตั้ม-โอ๋ งานนี้โต๋จะฝ่าด่านภาคินสำเร็จหรือเปล่า รวมทั้งความยุ่งเหยิงของความรักแต่ละคู่จะเป็นยังไง ต้องหาคำตอบพร้อมกันได้ กับ วัยอลวน 5

ผู้กำกับ เอ๋-ไพโรจน์ บอกว่า “ที่พูดว่าหนังเรื่องนี้เหมาะสมกับคนวัย 40 พลัส หยอกๆนะ จริงๆเหมาะสมกับคนทุกเพศทุกวัย ไม่เป็นพิษเป็นภัยราวกับสไตล์ วอลท์ ดิสนีย์

เพียงแต่ว่าผู้ชมวัย 40 กว่าจะรู้จักความสนุกสนานร่าเริงของ ตั้ม-โอ๋ ในปี 2519 เขาดูปุ๊บจะเก็ทฟีลเลย แต่ว่าใน วัยอลวน 5 พวกเราปรับให้เหมาะสมกับยุคนี้ เป็นหนังรักที่เข้าถึงทุกกลุ่ม รักคนละวัย รักวัยรุ่น หรือ กลุ่ม LGBTQ แฟนหนังรุ่นก่อนจะได้มองเห็น ตั้ม-โอ๋ ในวัย 60 ปี 

เป็นผัวเมียในแบบอย่างที่ดีของสังคมไทย ตั้มเป็นผัวที่มีความเกรงอกเกรงใจเมียเสมือนสมัยเก่า สิ่งที่เกิดขึ้นในหนังนับว่าเป็นความงามของสังคม พวกเราได้เก็บเรื่องราวจริงๆที่เกิดขึ้นในสังคมนำมาสร้าง ทุกวันนี้สังคมของพวกเราเปิดกว้างแล้วก็มีความเท่าเทียม ผมไม่เชื่อว่าหนังที่จะบันเทิงใจจะมีเพียงแค่พวกชิงรักหักสวาท อาฆาตแค้นเพียงแค่นั้นครับผม บอกเลยว่าห้ามพลาด และไม่มีให้ดูใน Netflix นะจ๊ะ”

“มีผู้ชมท่านใดในที่นี้ที่ได้ดู วัยอลวน ตั้งแต่ปี 2519 ที่ออกฉายครั้งแรกบ้างครับผม” เสียงกล่าวทักทายแรกของผู้จัดรายการ ซึ่งมีผู้ชมมากมายจำนวนกว่าครึ่งโรงหนังร่วมแสดงตัวว่า ได้เป็นหนึ่งในผู้ที่มีประสบการณ์รับชมผลงานที่สร้างปรากฏการณ์สำคัญนี้ ตั้งแต่ปีแรกที่ออกฉายอย่างเป็นทางการ โดย ไพโรจน์ สังวริบุตร ได้อธิบายความรู้สึกหลังจากดูผลงานที่แจ้งกำเนิดให้กับเขาร่วมกับผู้ชมในวันดังกล่าวมาแล้วข้างต้นอีกครั้งว่า

“จริงๆผมจะผูกพันมากยิ่งกว่าบุคคลอื่นอยู่แล้ว เป็นเมื่อสักครู่หลังดูจบอีกรอบ ได้ลองคุยกับคนไม่ใช่น้อย คิดว่ามีความรู้สึกแบบเดียวกัน คือดูแล้วมันรู้สึกปลื้มใจ คำว่าปลื้มใจ นี่มันเกินกว่าคำว่าสนุกสนานรวมทั้งชื่นชอบ เกินกว่าหลายสิ่งหลายอย่าง ไม่ทราบจะหาคำไหนมาบอก นอกเหนือจากคำว่าอิ่มอกอิ่มใจ ซึ่งมีความรู้สึกว่าผู้ชมทุกคนตรงนี้ในวันนี้ ก็คงจะรู้สึกเหมือนกัน

หลายท่านพูดว่า ลืมไปหมดแล้วว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร ซึ่งผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องปรกติ ด้วยเหตุว่าตามหลักจิตวิทยา คือมนุษย์เราจะจำเรื่องราวไม่ได้หรอก แต่ว่าจะจำอารมณ์ของมันได้”

เมื่อสักครู่ที่ดู วัยอลวน อีกครั้ง มีน้ำตาไหลนิดหน่อย เพราะว่าคุณพ่อกับคุณแม่ได้ร่วมเล่นอยู่ในนั้นด้วย คือผู้ที่เล่นเป็นคุณแม่ของตั้มเป็นคุณแม่แท้ๆของผม ส่วนคุณพ่อเป็นผู้ที่เล่นเป็นอธิการที่มากล่าวอะไรสักอย่างกับคุณลลนาในเรื่อง ดังนั้นผมก็เลยผูกพันกับหนังเรื่องนี้มากมาย รวมทั้งเนื่องจากว่าครอบครัวผมอยู่กับหนังโดยตลอด

เริ่มตั้งแต่ปู่ที่เป็นคนสร้างภาพยนตร์ ใน วัยอลวน คุณเปี๊ยกได้คุณมาเรีย เกตุเลขา มาช่วยจัดแจงติดต่อเรื่องของธุรกิจให้แก่หนัง ซึ่งคุณมาเรียจะสนิททั้งกับคุณพ่อกับคุณแม่ แล้วก็คุณอาไพรัช สังวริบุตร วันหนึ่ง คุณมาเรียมาบอกกับผมว่า ต้องการให้ไปพบคุณเปี๊ยก ไอ้ผมก็ไม่ไป ตามเท่าไรก็ไม่ไป เนื่องจากว่าผมคิดว่ารูปร่างหน้าตาอย่างผม ณ พ.ศ. นั้น มันไม่น่าเป็นพระเอกได้ (หัวเราะ)”

อย่างที่เกริ่นเอาไว้ตั้งแต่ทีแรกว่า คุณลุงๆป้าๆรวมทั้งคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ที่เติบโตมาในตอนสมัยเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้คงจะอินเป็นพิเศษ เนื่องจากว่าเหล่าผู้แสดงชุดเริ่มแรกต่างโผล่กลับมาสร้างสีสันในหนังเรื่องนี้เป็นช่วงๆช่วยคลายความระลึกถึงบรรยากาศเก่าๆเมื่อวันวานได้อยู่ไม่น้อย โดยในคราวนี้ “เอ๋ ไพโรจน์” ยังมารับหน้าที่เป็นผู้กำกับหนังด้วยตัวเองด้วย ทำให้บรรยากาศรวมทั้งโทนต่างๆของหนังโดนจับใส่เข้าทางได้อย่างดีเยี่ยม

นี่เป็นการรวมกลุ่มของศิลปินต่างรุ่น ทั้งยังรุ่นเก่ารวมทั้งรุ่นใหม่ประสมประสานกันเอาไว้อย่างน่าดึงดูด เว้นเสียแต่ เอ๋ ไพโรจน์ จะกลับมารับบทบาทเป็น ตั้ม อีกรอบ “จิ๋ม ลลนา” ที่ปลดเกษียณจากการงานแสดงในวงการไปแล้ว ยังเต็มอกเต็มใจที่จะกลับมาเป็น โอ๋ ในหนังเรื่องนี้อีกหน ร่วมด้วย “จิระวดี อิสรางกูร ณ อยุธยา” ที่ยังกลับมาเป็นสาวซ่าส์ นักจัดรายการวิทยุอ๋อ แล้วก็สมทบด้วย “ชรัส เฟื่องอารมณ์”, “แน็ค ชาลี”, “พิม พิมประภา” แล้วก็ “จิ๊บ ปกฉัตร”

แสดงนำโดย ไพโรจน์ สังวริบุตร, ลลนา สุลาวัลย์, จิระวดี อิสรางกูร ณ อยุธยา, แน็ก ชาลี, พิม พิมประภา, ชรัส เฟื่องอารมย์, จิ๊บ ปกฉัตร รวมทั้งใบเฟิร์น พัสกร ใน วัยอลวน 5 29 ธ.ค.นี้ ในโรงภาพยนตร์

แน่นอนว่า วัยอลวนห้า ได้เซอร์วิสแฟนคลับรุ่นเริ่มต้นเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการใส่ท้องท่วงทำนองได้รับความนิยมอมตะหลายๆเพลงที่เลื่องลือมาจนถึงทุกวันนี้ด้วยเหตุว่ามีจุดดำเนินจากหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นเพลง “ยับ”, “เธอที่รัก (ชูวับ ชูวับ)” หรือ “สุขาอยู่ทีใด” ที่เอามาปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงคำร้องใหม่แบบแกงเวอร์ชั่นต้นฉบับที่ก็ยังฟังคุ้นหูและเพราะไปอีกแบบ

แต่ว่าหนังเรื่องนี้ก็ยังคงไม่ประสบผลสำเร็จในด้านการนำเสนอในหลายๆมุม แม้ว่าจะมีความพากเพียรพรีเซ็นท์ออกมาในต้นแบบหนังรักที่มีกลิ่นของความเป็นหนังครอบครัว แต่ว่าภาพโดยรวมนั้น วัยอลวนห้า ยังคงค่อนข้างจะสะเปะสะปะสำหรับการจับเรื่องต่างๆมายัดใส่เอาไว้กันกระทั่งเละเทอะไปหมด กลายเป็นหนังที่แทบไม่มีหลักแกนใดๆก็ตามอยู่เลย

นอกเหนือจากนี้ หนังเรื่อง วัยอลวนห้า ยังแอบมีกลิ่นคล้ายกับสไตล์หนังลักษณะเดียวกันกับที่ผู้กำกับ “พชร์ อานนท์” ยอมหยิบมาใส่ โน่นเป็นการนำเอาเหตุการณ์ข่าวสารที่เคยเกิดขึ้นในสังคมมาดัดใส่เอาไว้เป็นหลักสำคัญเนียนๆถึงแม้บางจุดก็ค่อนข้างจะมองสะเปะสะปะแล้วก็มั่วไปสักนิดสักหน่อย อยู่ๆนักแสดงจะร้องมิวสิคัลกลางศาล หรือ เกิดกรณีศึกแก่งแย่งหวยรางวัลที่ 1 กัน ทุกสิ่งทุกอย่างโดนจับใส่เข้ามาแบบเจื่อนๆ

แต่ว่าท่ามกลางใจความสำคัญยิบย่อยที่หนังใส่เข้ามานั้น ก็มีส่วนดีอยู่บ้างเช่นกัน เนื่องจากลักษณะเด่นกลายเป็นว่า หนังสามารถให้นักแสดงอย่าง ตั้ม ที่เป็นทนายผู้ที่มีความชำนาญมากมายประสบการณ์ ถ่ายทอดและให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประมวลกฎหมายได้อย่างมีความเป็นจริงแล้วก็สอดแทรกวิชาความรู้ให้กับผู้ชมได้มีประโยชน์อย่างแนบเนียนดี

ก็แอบน่าเสียดาย ที่หนังภาคนี้ไม่ได้พูดถึงและก็เชื่อมโยงไปถึงภาคที่แล้วเลยนิดหน่อย ตัวละครอื่นๆที่ยังอยากเห็น ไม่ว่าจะเป็น ใบตอง กับ หนามเตย บุตรสาวกับลูกชายของพวกเขา กลับไม่มีการเอ๋ยถึงในภาคนี้อย่างน่าเสียดาย ในขณะที่ภาคก่อนเคยพยายามก่อใจความสำคัญเอาไว้ได้ค่อนข้างจะน่าดึงดูดและก็ยังสามารถเอามาปรับใช้เล่าต่อในปัจจุบันได้อยู่

ส่วนตัวผู้เขียนที่ดูจบแล้วเราจับใจความหนังได้ว่า แกนหนังของเรื่องคือความหึงหวงขอ งพี่โอ๋ ที่มีกับพี่ตั้ม รวมทั้งเรื่องความรักวัยรุ่นระหว่าง โต๋ กับ อั้ม โดยมีเรื่องมีราวราวรอบข้างเกิดขึ้นแบบเกิดเรื่องราวในชีวิตประจำวันของแต่ละตัวละคร ซึ่งผู้เขียนรู้สึกว่ามันเยอะไปค่ะ คงจะยึดเอาการหลักเรื่องใดเรื่องหนึ่งไปเลย นี่เหมือนหนังวัยรุ่นยุคสมัยปลาย70 – 80 ที่เรื่องราวหลักๆ มีไม่มากมาย เลยจำต้องยัดนู่นนี่โน่นเข้าไป เพื่อให้หนังยาวพอเพียงจะฉายโรงได้ ซึ่งถ้าหากจะมาฉายในยุคนี้มันไม่ได้เลย เราคนยุคใหม่เขาดูหนังอีกแบบแล้วจ้า ค่อยข้างจะผิดหวังนิดนึง

และความสัมพันธ์ระหว่าง โต๋กับอั้ม ไม่ค่อยอิน ไม่ให้ความรู้สึกต้องการเอาใจช่วยเลย อยู่ๆก็รักกัน ซะอย่างงั้น ไม่มีการฝ่าฝันปัญหาอะไรเลย ปูเรื่องราวกับจะให้เหมือนตอน ตั้ม โอ๋ ตั้งชื่อยังเอาชื่อ โต๋ อั้ม มาใช้ เพื่อจะอิงให้กำเนิดความสัมพันธ์กับหนังภาคเก่า มีการเอ๋ยถึงเรื่องราวเก่า ๆ กลับมากำเนิดฉายซ้ำใหม่ ก็รู้เรื่องว่าต้องการเชื่อมให้คนดูมองเห็นความสัมพันธ์ของผู้แสดง ตั้มกับโอ๋ แต่เรารู้สึกว่าว่าไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้จ้า

เอาเป็นว่าโดยสรุปแล้ว วัยอลวน5 ก็น่าจะเป็นหนังที่พอทำให้คนยุคก่อน ๆ ที่ทันเวอร์ชั่นต้นฉบับได้คิดถึงวันวานได้อยู่ ได้อยู่เท่ากับ …ก็แค่ในแง่การนำเสนอของหนังยัง คงออกจะผิดพลาดอยู่หลายจุดอยู่ค่ะ โดยยิ่งไปกว่านั้นความไม่มีเหตุผล รวมทั้งข้อความสำคัญที่ยังอ่อนด้อยไปในหลายๆกิมมิก กลายเป็นว่าตลอด 2 ชั่วโมงของหนังยังไม่ค่อยมีอะไรที่น่าจดจำ แต่ว่าอย่างน้อยๆตำนานของ ตั้ม-โอ๋ ก็ยังคงสะดุดตาที่สุดของภาพยนตร์แฟรนไชน์ชุดนี้อยู่ต่อไปค

หลังอ่านรีวิวเรื่องนีจบแล้ว ทีมงานของเราอยากให้เพื่อนๆตามไปอ่านรีวิวอีกเรื่อง Long Live Love ลอง ลีฟ เลิฟ สุดยอดหนังรักที่คุณจะคาดไม่ถึง รีบกดเข้าไปอ่านกันเลยค่ะ