รีวิว ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2

รีวิว ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2

 

 

จากความสำเร็จของภาพยนตร์ไทบ้าน  ดูหนังออนไลน์   เดอะซีรี่ส์ โดยกระแสปากต่อปาก บวกกับความตั้งใจจะทำภาคต่ออยู่แล้วก็เลยทำให้ ไทบ้าน เดอะซีรี่ส์ 2 มีความคาดหวังมากขึ้น เนื่องจากภาคแรกก็มีทิ้งประเด็นเอาไว้น่าสนใจมาก การมาของภาคต่อจึงค่อนข้างแบกรับความกดดันพอควร หนังไทยน่าดู ถึงอย่างนั้นสไตล์ความบ้าน ๆ ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความเข้มของเนื้อหามากขึ้น ดูหนังฟรี

รีวิว ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2 ข้อมูลของหนัง

 

รีวิว ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2 ไทบ้าน เดอะซีรี่ส์ 2 จะเล่าต่อจากตอนจบของภาคแรกทันที เมื่อจ่าลอดได้สมหวังกับครูแก้ว ทว่าเซียงเพื่อนซี้ของเขาจากหนุ่มเพลย์บอยมั่วหญิงทุกคน ต้องเจอกับรักในอดีตที่ตามหลอกหลอนจนต้องออกบวชเพื่อลืม ใบข้าว สาวคนรักที่ฝังใจ ส่วนของบักป่องหลังจากบังเอิญปลูกข้าวได้สำเร็จ (มีพ่อคอยช่วย) ก็ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเปิดมินิมาร์ท พร้อมผุดไอเดียใหม่คือ “เปิดสโตร์ผัก”รีวิวหนังไทย

 

 

สำหรับเนื้อหาในภาคที่ 2 จะเน้นที่ความรักมากขึ้น พร้อมกับโยกตัวละครหลักเป็น พระเซียง ที่ตอนนี้ได้เข้าร่มเงาศาสนาแล้ว แต่ก็ไม่วายต้องเจอเหล่าเพื่อนรักเรียกใช้งานอยู่บ่อย ๆ และยังไม่ลืมรักเก่า ขณะที่ยังมีอีกตัวละครคือ ปริม สาวข้างบ้านที่แอบชอบเซียงมาตลอดแต่เขาไม่เคยใส่ใจ ส่วนของบักป่องกับความฝันใหม่อยากทำสโตร์ผักก็ให้เห็นว่ามีกระบวนการอย่างไร เพราะคราวนี้ป่องต้องลงมือทำเองไม่มีพ่อคอยช่วยแล้วรีวิวหนังไทย

 

ในภาคนี้ก็จะให้น้ำหนักพอสมควรกับตัวละครป่อง ซึ่งสื่อให้เห็นคนรุ่นใหม่ในสมัยนี้ที่นิยมทำตามฝันเป็นเจ้าของกิจการ แต่หารู้ไม่ว่าเส้นทางมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เชื่อว่าหลายคนคงมีความฝันเหมือนบักป่องนี้แหละครับ สโตร์ผักที่ฝันใฝ่จะเป็นอย่างไรก็คงต้องตามดูกันในเรื่องนี้

 

รีวิว ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2

 

 

เรื่องย่อ

 

สโตร์ผัก ในฝันของ ป่อง เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง โดยมีผู้ช่วยนักธุรกิจอย่าง จาลอด ช่วยงานอย่างขยันขันแข็ง เพราะอยากสร้างเนื้อสร้างตัวให้มั่นคงสมหน้าตา ครูแก้ว ฝ่าย พระเซียง ที่เพิ่งสงบจิตใจได้ไม่นาน กลับต้องมาใจสลายอีกครั้ง เมื่อ มืด มาบอกว่า ใบข้าว เสียชีวิตแล้ว ในขณะที่ เฮิร์บ อยากรู้เพศลูกตัวเองมาก จึงพา เจ๊สวย ไปถามหลวงพ่อที่วัดจนถึงไปตรวจที่โรงพยาบาล แต่แล้วก็ต้องผิดหวังเมื่อรู้ว่าไม่ได้ลูกชาย กีโน ที่อยู่กินกับ แชมป์ เริ่มเพ้อฝันถึงอนาคตครอบครัวจนหลงลืมพี่สาวท้องแก่ที่คอยเป็นห่วง ส่วน โรเบิร์ต หลังจากถูก เดอะแก๊ง เอาไปปล่อยวัดแล้วก็ไม่มีใครรู้ชะตากรรมโรเบิร์ต จะสร้างความปั่นป่วนให้วัดหรือไม่ สโตร์ผักเฮียป่อง จะไปได้ไกลสักแค่ไหน จาลอด จะสร้างความมั่นคงเพื่อ ครูแก้ว ได้ไหม แล้ว พระเซียง จะตัดใจจาก ใบข้าว ได้อย่างไร ร่วมลุ้นหาคำตอบให้กับคำถามที่ยังคาใจ ว่า ทำไมใบข้าวถึงตาย? และเป็นกำลังใจให้กับพวกเขาได้ใน ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2

 

กระแสการตอบรับ

หนังเป็นที่รู้จักอย่างแน่นแฟ้นกับแฟนคลับหนังคนไทบ้าน หนังม้ามืดที่ทำเงินเป็นบ้าเป็นหลังในภูมิภาคอีสานอันเป็นจุดยุทธศาสตร์ของหนัง ความสนุกและซื่อของหนังก็โด่งดังจนกลายเป็นป่าล้อมเมือง คนเมืองก็รู้จัก คนรักหนังไทยก็ติดตามดู ยิ่งเมื่อมีข่าวว่าภาค 2.2 นี้ไม่ผ่านเซ็นเซอร์ก็กลายเป็นชื่อที่ได้ยินกันไปทั่วทุกหัวระแหง ทั้งเว็บข่าว ทั้งเพจหนัง ซึ่งก็การันตีว่ามีคนติดตามและใส่ใจอยากดูอยู่ในทุกที่จริง ๆ โดยส่วนตัวขอยืนยันในความสนุกของหนังแม้จะฟังภาษาอีสานไม่เข้าใจทุกคำก็ตาม เพราะบทและการแสดง รวมถึงทีมงานที่สรรค์สร้างใส่ความจริงใจให้กับหนังจนเราสัมผัสได้เต็ม ๆ เป็นหนังไทยอีกเรื่องที่ดูราคาเต็มก็ไม่เสียดายเลย

 

 

รีวิว ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2

 

 

ความรู้สึกหลังดู

แม้การเดินเรื่องจะเป็นตัวละครรองแต่จุดแข็งที่เคยทำดีในภาคแรกก็ยังคงอยู่ครับ แถมยังสานต่อพัฒนาการของตัวละครในหมู่บ้านโนนคูณมากขึ้น เราจะได้เห็นความเป็นไปของตัวละครย่อยต่าง ๆ แบบเจาะลึก โดยที่ไม่เสียแกนกลางหลักคือการลืมความรักของพระเซียง ซึ่งประเด็นหลักนี้จะถูกย้ำเตือนตลอดทั้งเรื่อง จนกระทั่งในตอนสุดท้ายจะเป็นจุดจบที่น่าเศร้าโศก

 

ส่วนเนื้อหาที่เข้มข้นขึ้นนั้นก็จะหมายถึงเรื่องดราม่าต่าง ๆ จะมีเยอะกว่า น่าสะเทือนใจมากกว่าภาคแรก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ทิ้งมุกตลกแบบบ้าน ๆ ที่ยังสร้างความฮาตลอดทั้งเรื่องไม่ให้หนังเครียดไป ในจุดนี้ต้องขอชมคุณ สุรศักดิ์ ป้องศร ผู้กำกับหนังที่สามารถคงโทนเรื่องไว้ได้ดี ซึ่งหนังภาคต่อมักมีอาถรรพ์ทำได้ไม่ดีเท่าภาคแรก นั่นคงไม่ใช่กับไทบ้านครับเพราะภาค 2 ทำได้ดีพอ ๆ กันเลย   ไทบ้าน เดอะ ซี รี ส์ ภาค 1

อย่างไรก็ตามเรื่องการตัดต่อ ตัดสลับฉาก ก็ยังเป็นจุดที่น่าติตั้งแต่ภาคแรกที่อยู่ ๆ ก็ตัดฉากนั้นไปฉากถัดไปทันที ปรับเปลี่ยนอารมณ์พอสมควร แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนัก มันจะรู้สึกชินไปเองครับกับการตัดต่อแบบไทบ้านสไตล์

 

ในส่วนของไทบ้าน เดอะซีรี่ส์ 2.2 ก็จะติดค้างจาก 2.1 กับเรื่องราวของพระเซียงที่ดูเหมือนว่าการอยู่ใต้ร่มเงาศาสนา จะดูเป็นผู้เป็นคนและลืมสาวคนรักได้แล้ว ขณะที่สโตร์ผักของบักป่องก็เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ทุกอย่างดูเหมือนจะดีแต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องเจอกับสิ่งที่เรียกว่า “ความผิดหวัง”  ไทบ้านเดอะซีรีส์ เต็มเรื่อง

 

 

รีวิว ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2

 

ประเด็นหลักของภาค 2.2

 

 

จะไม่เน้นความรักอีกต่อไป แต่จะเป็นความเศร้าโศกที่ถาโถมมาแทน ประหนึ่งว่าผู้กำกับแกล้งให้ความหวังแล้วก็ขยี้มันไม่เหลือชิ้นดี เริ่มจากพระเซียง แทนที่แผลใจจะสมานดีแต่กลับถูกเปิดกว้างอีกครั้งเมื่อรู้ว่า ใบข้าว ตายแล้ว เหมือนว่าสิ่งที่หล่อเลี้ยงให้เขามีชีวิตอยู่ถูกทำลายลง จนนำไปสู่ฉากน่าเศร้าที่ถูกกองเซ็นเซอร์สั่งให้ตัดออกไป

 

**ฉากดังกล่าวคือพระเซียงกอดโลงศพของใบข้าวพร้อมกับปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใครต่อหน้าทุกคนในงานศพ**

 

ขณะที่อีกฟากฝั่งคือ บักป่อง กับความฝันทำสโตร์ผักทั้งที่มีไอเดียดี เปิดร้านได้สำเร็จพร้อมกับมี Content น่าสนใจ ทว่าความจริงมักโหดร้ายเสมอเมื่อไม่มีคนมาซื้อผักเลย รวมถึงโรงเรือนก็ไม่ได้รับรองมาตรฐาน เงินทุนที่ลงไปกลับสูญเปล่า เป็นการขยี้ความฝันของวัยรุ่นคนหนึ่งได้เจ็บแสบ แถมยังแอบเสียดสีวัยรุ่นที่ชอบคิดว่าเป็นเจ้านายตัวเองแล้วนอนรอรับเงินด้วยว่า “หนทางมันไมได้ง่ายดายอย่างที่คิด”

 

นอกจากตัวละครชูโรงในภาคนี้ทั้งสองคน ในด้านตัวละครอื่น ๆ เองก็พบเจอกับความผิดหวังเหมือนกันครับ ตั้งแต่ มืด หนุ่มน้อยที่อกหักเพราะหัวหน้าห้องสุดน่ารักดันไปคบกับเพื่อนของตน ทางด้านสวยกับเฮิร์บก็ผิดหวังกับการตรวจหาเพศของลูกที่ไม่ได้ดั่งฝันไว้ อย่างไรก็ตามในความผิดหวังก็ยังมีหวังอยู่กับกลุ่มของ “ลูกพี่” หลังจากทิ้ง โรเบิร์ต เพื่อนที่เป็นบ้าจนหายตัวไป ในที่สุดพวกเขาก็ตามหาจนเจอเสียที   ไทบ้านเดอะซีรีส์ 1 เต็มเรื่อง

 

สิ่งที่เป็นจุดเด่นของภาคนี้คือการค่อย ๆ เปิดแผลของความผิดหวังทีละนิด ๆ แล้วกระทืบซ้ำในตอนท้ายเรื่อง ราวกับระเบิดเวลาที่นับถอยหลังความรู้สึกที่ถูกเก็บกดเอาไว้จนเมื่อถึงเวลา ความรู้สึกที่อยู่ในใจลึก ๆ ก็ระเบิดออกมาไม่เหลือชิ้นดี สำหรับการเล่าเรื่องตรงนี้ถือว่าเฉียบขาดมากครับ เพราะในเรื่องเราจะเห็นตัวของพระเซียงอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเดินเรื่องไปหาตัวละครไหนก็ตาม ทำให้รู้สึกผูกพันกับตัวละครนี้มากกว่าจ่าลอดเสียอีก

 

ถึงแม้ฟังดูว่าภาค 2.2 จะมืดมนหดหู่ มันก็ไม่เชิงอย่างนั้นครับ เพราะตลอดทั้งเรื่องก็มีความตลกสอดแทรกมาอยู่ไม่ให้หนังหม่นไป โดยเฉพาะการก่อสร้างสโตร์ผักของบักป่องครับ ที่ตลกเอามาก ๆ แม้กระทั่งการคิดชื่อสโลแกนร้านก็ยังเรียกเสียงฮาได้ ถือว่าเป็นตลกธรรมชาติที่แท้จริง

 

 

 

 

หนังกลับมาเล่าย้อนแบบเนียน ๆ ถึง ปัญหาของตัวละครแต่ละกลุ่มเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะ มืด น้องชายวัยรุ่นของจาลอดที่รักสาวแต่สาวไม่สนใจ จาลอดที่ลงแรงกับป่องหวังตามฝันเป็นนักธุรกิจใหญ่ได้รับการยอมรับจากทางบ้านของแฟนสาวและด้านป่องก็อยากลบคำสบประมาทของพ่อตัวเองที่ว่าทำอะไรไม่สำเร็จ และตัวหลักในภาค 2 ที่พระเซียงหนีรักมาบวชต้องเข้าไปช่วยเพื่อน ๆ แต่ละคน ทั้งยังต้องปลงใจตัวเองให้ลืมแฟนเก่าอย่างใบข้าวที่ท้องและแต่งงานกับคนอื่นไป จนท้ายภาค 2.1 ที่พระเซียงต้องรับรู้ว่าใบข้าวตาย ก็ทิ้งเป็นปมใหญ่ที่ช็อกคนดูและอยากทราบความเป็นไปมากที่สุดด้วย

 

อย่างที่บอกว่าหนังเล่าย้อนเนียนมากจนไม่แน่ใจว่า 20 นาทีแรกมีสัดส่วนของภาคเก่าขนาดไหน และปมใบข้าวตายก็ถูกย้อนความไปก่อนหน้านานอยู่ จนเราต้องเฝ้ารอว่าเกิดอะไรขึ้นกับใบข้าว และพระเซียงจะรับมืออย่างไร ซึ่งกว่าจะไปบรรจบกับตอนจบภาคแรกก็เกินครึ่งเรื่องหลังไปแล้ว แต่ระหว่างทางก่อนนั้นหนังก็ยังสนุกด้วยรายละเอียดต่าง ๆ ที่เรายังไม่เห็นในภาค 2.1 และยังมีการพัฒนาเรื่องราวความสัมพันธ์ของแต่ละตัวละครอย่างเห็นได้ชัดขึ้น มีมุกขำ ๆ ให้ดูให้ฟังกันตลอดจนไม่รู้สึกหงุดหงิดที่หนังย้อนความไปเสียไกลขนาดนี้ ทั้งที่ตั้งใจมารอดูเต็มที่ว่าหลังใบข้าวตายพระเซียงจะทำอย่างไร

 

 

หนังยังโดดเด่นในการถ่ายทำที่ได้อารมณ์ความเป็นบ้านนอกขนานแท้ แต่ก็เป็นบ้านนอกแบบมีความสุข ความเรียบง่าย แสงอุ่น ๆ การถ่ายมุมกล้องที่สวยงามและก็ดูจริงไปพร้อมกัน ทั้งบทและนักแสดงตัวหลักตัวประกอบก็ยังคงคุณงามความดีจากเดิมมาอย่างไม่มีตก ทุกอย่างง่ายดายมากที่ผู้ชมจะตกเข้าไปสู่ห้วงของตัวละครราวดกับเราเป็นเพื่อนสนิทของพวกเขาอีกคน ความรู้สึกใด ๆ ที่พวกเขารู้สึก เราก็รับรู้ได้ราวกับเป็นเรื่องของเรา ทั้งนี้เพราะบทหนังนั้นล้วนแต่นำสถานการณ์ที่ครั้งหนึ่งเราอาจต้องเคยผ่านมาในชีวิตจริงทั้งสิ้น ทั้งความรัก ความผิดหวัง การสูญเสีย นี่จึงเป็นข้อเด่นอีกประการ นอกจากการนำเสนอความเป็นท้องถิ่นอีสานแบบโซเรียล (เรียลขนาดว่าพิธีการทำศพแบบบ้านนอกทำเอากระอั่กกระอ่วนไม่เบา) ที่ทำให้ไทบ้านเป็นหนังที่ทุกคนเป็นเจ้าของจับจองห้วงอารมณ์ได้ดูไทบ้านเดอะซีรีส์ 2

 

และในภาคนี้หนังก็ยังมีดนตรี และเพลงที่กินใจติดหู เป็นลายเซ็นให้คนจดจำได้ดีอีกเช่นเดิม ใครอยากรู้ความเป็นมาของพระเซียงกับใบข้าวนี่ แค่ดูเอ็มวีจนจบจะเข้าใจได้เลยว่าทำไมพระเซียงต้องไปเคาะโลงร้องไห้จนฉากนี้ถูกหั่นทิ้ง

 

 

 

สิ่งที่รู้สึกว่าหนังควรต้องใส่ใจกว่านี้มีอยู่บ้างตรง ซับภาษาไทยภาคกลางที่แปลจากคำพูดชาวอีสาน ยังแปลได้ไม่สะเด็ด อาจเพราะกลัวหยาบโลนไปถ้าแปลตรงตัว แต่ก็คิดว่าน่าจะหาคำที่มันได้อารมณ์เสียงอีสานมากกว่านี้ เพราะหนังก็มีความเป็นวัยรุ่นอยู่แล้ว อย่างคำว่า สี หนังก็แปลว่ามีเพศสัมพันธ์ ซึ่งทำให้บริบทที่ตัวละครสบถประชดประชันดูประหลาดไม่ได้อารมณ์ จะใช้คำวัยรุ่นที่ไม่ชัดเจนอย่าง ฟีท(เจอริ่ง) หรือ เย ก็อาจจะได้อารมณ์กว่า นอกจากนี้ซับยังสร้างการรับรู้การสะกดคำผิด ๆ อยู่หลายคำ ที่สะดุดใจเป็นพิเศษคือ โอกาส ที่หนังเขียนผิดแบบวัยรุ่นที่มักเขียนผิดกันประจำว่า โอกาศ ซึ่งอาจทำให้เด็กที่ดูเข้าใจไปว่าที่เขียน ศ สะกดถูก เป็นต้น

 

และด้วยการที่หนังถูกขยายออกมาเป็น 2.1 และ 2.2 ก็ทำให้ลุคของนักแสดงกระโดดไปมาไม่ต่อเนื่อง เห็นกันถนัดสุดคงเป็นมืด ที่ทรงผมเปลี่ยนไปมาในหลายฉาก ก็น่าจะเป็นบทเรียนให้ทีมงานต่อไป

 

 

และตอนท้ายที่บอกว่าไม่หนำใจ เพราะเอาจริง ๆ เรื่องคืบหน้าจากภาค 2.1 ไปน้อยมาก แต่รายละเอียดที่เพิ่มมาก็พอพยุงหนังให้ดูสนุกจนให้อภัยได้ และที่สำคัญหนังจบลงด้วยความอยากรู้อยากดูเข้าไปอีก แม้หลายปมจะคลี่คลายหรือเราพออนุมานได้ว่าจะลงเอยอย่างไร แต่ปมที่หนังทิ้งระเบิดลงหนัก ๆ ในตอนจบแบบพลิกบรรยากาศให้เสียวสันหลังขึ้นทันทีทันใด ก็ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นจนอยากรอดู ก้าวต่อไปของทีมงานมาก ๆ ว่าจะนำผู้ชมไปสู่หนัง สัปเหร่อ ที่จะมาแนวใหม่นี้ได้สนุกขนาดไหน และถ้าสำเร็จก็บอกเลยว่าหนังจะเป็นหนังผีตลกที่น่าสนใจ และอาจช่วยสร้างบรรทัดฐานของหนังผีตลกฉบับไทยให้ดูดีขึ้นอย่างมาก ๆ ครับ

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *