ดูบอลสด
สวัสดีครับ วันนี้เราจะมารีวิว หนังผีไทย เรื่อง ร่างทรง The Medium 2021 หนังผีไทยเกี่ยวภูติผีปีศาจ และชื่อก็บอกอยู่ว่าร่างทรง ทำเอาหลอนๆกันไปตามๆกันแน่นอน แค่ดูตัวอย่างก็ทำเรารู้สึกขนลุกแล้ว และที่เลือกภาพยนต์เรื่องนี้มารีวิว เพราะเราดูจบแล้วรู้สึกว่ามันหลอนมากๆ โดยเฉพาะการแสดงของนักแสดง ทำเอาขวัญหายไปหมด เป็นการดำเนินเรื่องทั้งมุมกล้องทั้งการถ่ายทำ ให้เรารู้สึกเหมือนเป็นเรื่องจริงที่ไม่ใช่แค่ภาพยนต์เท่านั้น ส่วนเนื้อเรื่องจะเป็นอย่างไรนั้น เรามาอ่านเนื้อเรื่องย่อกันก่อนที่จะไปดูแบบเต็มเรื่องกันเลยครับ และเตรียมตัวพบ กับความหลอนกันไดเลย
รีวิวภาพยนต์ ร่างทรง The Medium 2021
มาที่หนังสยองขวัญไทยกลายเป็นเพื่อนบ้านที่อื่น ได้มีโอกาสไปพิสูจน์กับเรื่องราวระดับแนวหน้าของประเทศ เช่น “Medium” ที่ร่วมกันสร้างโดย Guangdong Guangdong และ South Korea SHOWBOX และทีมสร้างและทีมงานรวมงานโกสต์โดยไทยและเกาหลีใต้คัดสรรประเด็นของท้องถิ่น ความเชื่อแล้วปรุงแต่งให้เป็นเรื่องน่ากลัวพิสดาร แต่ผลที่ออกมาของหนัง…ความสยองที่พวกเขาเล่าลือกันนั้นจริงหรือเท็จ?
พลังจิต เล่าเรื่องความเชื่อไสยศาสตร์ท้องถิ่นภาคอีสาน ภาพยนตร์เรื่องนี้จะมุ่งเน้นไปที่ครอบครัวที่เชื่อในการนมัสการพระเจ้า ในอดีตเป็นสื่อพลังจิตแต่กลับกลายเป็นต้องรับมือกับวิญญาณประหลาดและภูตผีปีศาจที่พยายามเข้าสิงร่างมิ้งค์หลานสาวของครอบครัว เหตุการณ์ทั้งหมดนี้อาจทำให้ความเชื่อของพวกเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล
ภาพยนตร์เรื่อง ร่างทรง2022 ใช้สูตรการเล่าเรื่องของสารคดีล้อเลียนหรือการล้อเลียนสารคดี นี่เป็นสูตรที่ค่อนข้างท้าทายในการพิจารณาใช้ภาพยนตร์ที่ซ้อนอยู่ในสารคดี เพราะการเล่าเรื่องแบบนี้ถูกนำไปใช้กับหนังหลายๆ เรื่อง และถูกรื้อทิ้งไปหลายครั้ง แต่การเกิดขึ้นของสื่อนี้ก็ยังน่าสนใจอยู่มาก โดยแนะนำเป็นการถ่ายทำสารคดีชีวิตป้านิ่มในร่างย่าบาหยัน ใครเป็นผู้สืบทอดสื่อในยุคปัจจุบัน หนังเริ่มต้นได้ดีและน่าสนใจพอสมควร เหตุผลส่วนหนึ่งคือชีวิตของป้านิ่มและสิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่นั้นควรค่าแก่การรู้
แต่นั่นดูเหมือนจะเป็นข้อได้เปรียบหลัก คนเดียวในหนังเรื่องนี้ที่สร้างมันขึ้นมา หนังตั้งคำถามที่น่าสนใจมากในช่วง 15-20 นาทีแรก แล้วค่อยๆ เบลอคำถามไปไกล เมื่อหันไปดูเรื่องราวของหลานสาวชื่อมิ้งค์ พฤติกรรมแปลก ๆ ของเธอค่อนข้างแตกต่าง ยังคงยึดหลักความเชื่อทางศาสนาเป็นเส้นบางๆ โดยใช้พุทธ คริสต์ ควบคู่กับความเชื่อเรื่องผี
เรื่องราวของมิ้งค์เริ่มต้นพอดูได้ แต่ก็ยากขึ้นเรื่อยๆ ชั้นเชิงเริ่มสั่นคลอนภาพรวมของภาพยนตร์ และทุกอย่างก็เปลี่ยนไป สุดท้ายแล้ว กฎแห่งความสำเร็จของหนังผีแบบเก่าก็ยังคงใช้อยู่ จีดีเอชเคยทำมาก่อนและหยิบยืมองค์ประกอบจากหนังแนวนี้มาสร้างสมดุลให้กับหนัง หลายคนอาจรู้สึกว่าหนังล่องลอยไป ปีนขึ้นไปบนสุดของเรื่อง ภาพยนตร์กลับวุ่นวายมากขึ้น
โดยเฉพาะในช่วง 20 นาทีสุดท้ายของหนัง ข้าวผัดกลายเป็นนรกในที่สุด ใครจุดไฟให้ใหญ่ขึ้น คอยเติมเครื่องปรุงในหม้อจนไฟลุก แต่พยายามทำให้ผู้ชมตกใจและหวาดกลัวด้วยภาพยนตร์ แต่ไม่สำเร็จ กลับกัน ฉันรู้สึกว่าหนังพาคนดูไปไกล…ไกลเกินไป เมื่อมองย้อนกลับไปย้อนดูจุดเริ่มต้นของการสะสมฟิล์ม แต่ท้ายสุดคือ…เมนูที่ดูเผ็ดแต่ยังไม่ถึงเนื้อถึงใจ
Upload Image...
การกลับมาของผู้กำกับอย่าง โต้ง บรรจง
นี่คือการกลับมาครั้งล่าสุดของหนังสยองขวัญของผู้กำกับ โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกุล ผู้กำกับคนปัจจุบันของผู้กำกับ ต่อจากหนัง 2 เรื่องที่เคยปลุกผีไทยมาแล้วจากเรื่อง Shutter (2547) จนถึงปัจจุบัน ทุกย่างก้าวของหนังมหาเศรษฐีไทย “พี่มาก พระโขนง” (2556) แนวสยองขวัญ ตลก สะกดทุกสายตา
และก้าวนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นก้าวแรกของบรรจงก้าวสู่สากล เพราะเขาได้รับเชิญให้ร่วมงานกับผู้กำกับชาวเกาหลีที่มีชื่อเสียงในเวทีระดับนานาชาติอย่าง Na Hong Jin ซึ่งเคยสร้างภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง Cry (2016) มาแล้ว และมีรสนิยมสยองขวัญที่น่าสนใจ และภาพยนตร์เรื่อง Vessel ยังคว้าอันดับ 1 บ็อกซ์ออฟฟิศเกาหลีเมื่อกลางปีที่แล้ว และเสียงชื่นชมในความโหดเหี้ยมน่ากลัวของภาพยนตร์เรื่องนี้ แน่นอน นั่นคือความภูมิใจของคนไทยจริงๆ ไม่ต้องสนว่าหนังจะออกมาเป็นยังไง
ร่างทรง สนุกไหม หากเราบอกว่าหงจินมีอิทธิพลต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ นอกเหนือจากโครงเรื่องที่เขาวางแผนไว้แต่เดิมว่าจะสร้างภาคที่สองของ “The Cry” นั่นก็คือแนวทางและบรรยากาศของการสร้างฉากของภาพยนตร์ บรรยากาศฝนตกชุกในชนบทดูเยือกเย็นและลึกลับ พิธีกรรมและความเชื่อแปลกๆ ที่ซ่อนอยู่ในชีวิตของผู้คนก็น่าตกตะลึง ฉากหลังเป็นตัวละครสำคัญอีกตัว แต่ถ้าขาดไป รับรองว่าหนังเรื่องนี้เค็มแน่นอน
และต้องบอกว่าฝีมือการออกแบบของทีมงานไทยไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะเป็น หุบเขาที่รูปปั้นยาบายัน รวมถึงอาคารร้างที่มีรากไม้เลื้อย มีฉากที่ยอดเยี่ยม 2 ฉากที่นี่ หากไม่มีดนตรีหรือสิ่งใดช่วย ก็ดูมืดมนมากแล้ว เมื่อประกอบกับดนตรีและการแสดงที่สร้างอารมณ์ได้มากมาย เช่น การปั้นนักแสดงมากฝีมือ ทั้งตัวละครหลัก ตัวรอง (สมกับเป็นตัวประกอบที่คุณภาพหนังไทย) และบทที่ลงตัว หมุนๆ ดู People come and go จึงเป็นหนังที่ทรงพลังมาก ต้องขอปรบมือให้กับการเลือกนักแสดงที่เอาชื่อเข้าลิสต์จริงๆ
ครึ่งหลังของหนังนั้นใสซื่อ ตึงเครียด ขนลุก น่ากลัวสุดๆ และบางครั้งก็ปั่นป่วนท้องไส้ปั่นป่วน อาจเป็นเพราะการเคลื่อนไหวที่มืดสมจริงของโรงเช่นในกรณีนี้การตัดต่ออย่างรวดเร็วเพลงอาละวาดถ้าหน้าจอเล็กคุณต้องเห็นประโยชน์ครึ่งหนึ่งในโรงภาพยนตร์จริง ไม่มืดมาก ดนตรีไม่ใช่แบบนั้น มันอาจจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ทีมผู้สร้างอยากให้เป็น และอารมณ์ของเรื่องก็ดีมากไม่มีเสียกำลังใจ หดหู่ หดหู่ในใจคนดูตลอดครึ่งหลังจนอยากจะปรบมือให้ดังๆ
Upload Image...
จุดเด่นของภาพยนต์ และ จุดด้อยส่วนน้อย
อีกหนึ่งแง่มุมที่น่าชื่นชมของ หนังเรื่องร่างทรง คือความจริงจังของเรื่องราวที่กล้าท้าทายข้อห้ามของสังคมไทยครั้งแล้วครั้งเล่าและน่าชื่นชมในความเฉลียวฉลาดของภาพยนตร์เรื่องนี้ ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าข้อห้ามที่ถูกบดขยี้คืออะไร
แต่เห็นเจตนาชัดเจนในการลองของสิ่งนี้ถ้าการเล่าเรื่องไม่ดี รับรองไม่ผ่านเอเจนซี่ที่ตัดเรียบในไทย (ชื่อ Guangdong Hai อาจเป็นเกราะกำบัง) ที่สำคัญเกมโสโครกทางสายตาและจิตใจแบบนี้มันง่าย กลายเป็นจืดชืดไป คอหนังขอปรบมือให้อีกครั้ง
บุญส่ง นาคภู่ อีกหนึ่งผู้อยู่เบื้องหลังเบื้องหน้า ฉันไม่สามารถละสายตาจากเขาได้เลยในขณะที่อยู่หน้าจอ
ส่วนอื่นก้ำกึ่งทั้งดีและไม่ดี แต่โดยส่วนตัวแล้วชอบครึ่งหลังมากกว่า มันใสๆ และเป็นฉากที่น่าสนใจในรายละเอียดชีวิตของตัวละคร เรื่องราวของพี่น้องที่ไม่ยอมเป็นโรคจิตและแม้แต่คนที่พยายามหนีปัญหาในทางที่ผิดหรือหนีไปพึ่งศาสนาอื่น
สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสนุก หากเป็นสารคดีจริงๆ เราจะได้เห็นแง่มุมเหล่านี้มากมายเพื่อเพิ่มพูนปัญญาของเรา แต่เมื่อมันอยู่ในหนังสยองขวัญ มันทำได้หลายอย่าง มันทำให้ครึ่งแรกของหน้าไม้อยู่ระหว่างความสนุกและน่าเบื่อ เนื่องจากมันสร้างขึ้นจากการสัมภาษณ์ตัวละครต่างๆ จึงมีบทสนทนามากมายเพื่อกำหนดพื้นหลังและอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ เมื่อฟุตเทจเพียงอย่างเดียวไม่สามารถบอกเล่าเรื่องราวที่ลึกซึ้งได้
การตัดต่ออาจรวมการเล่าเรื่องแม้ว่าจะยอดเยี่ยมตลอดทั้งเรื่องก็ตาม นอกจากนี้ ยังเห็นสิ่งแปลก ๆ ที่พยายามโกง แต่ก็ไม่ได้หายไปทั้งหมดเพราะหยดลับ ๆ ล่อ ๆ ที่ไม่สามารถตอบได้ ฉันจะไม่แปลกใจเกินไป นอกจากนี้ยังมีลำดับการตัดต่อแปลกๆ
ซึ่งมักจะทำให้ผู้ชมตกใจเมื่อพวกเขาเข้าใจผิดและมองไปที่ผลลัพธ์จากอีกด้านแทน โดยเลือกที่จะดูอีกด้านหนึ่งของผลลัพธ์ ปล่อยให้ผู้คนเดาทันทีก่อนที่จะตกใจกับคำตอบ
Upload Image...
ร่างทรง The Medium 2021 ดำเนินเรื่องได้ดี แต่นักแสดงยอดเยี่ยมสุดๆ
ร่างทรง netflix เอาจริงไม่อยากคิดหรือว่า “โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกุล” หมดความกระตือรือร้นกับหนังสยองขวัญที่เคยสร้างบนหิ้ง? สารพัดวิสัยทัศน์ในหนังเรื่องนี้ผมแทบไม่เห็นความจัดจ้านในแบบหนังผีเด็ก โชคดีที่มีโปรดิวเซอร์ชาวเกาหลี “นาฮงจิน” คอยช่วยกลบโทนของหนังและรักษาโทนของหนังให้อยู่ภายใต้การควบคุม ไม่เช่นนั้น สื่ออาจเละเทะได้ ข้ามโขงไปได้
แต่ยังไงก็ต้องยอมรับในฝีมือนักแสดงของหนังเรื่องนี้และไม่ได้เลือกใช้นักแสดงชื่อดังมาถ่ายทอดเรื่องนี้ซึ่งเป็นความฉลาดของหนัง การใช้นักแสดงที่ไม่รู้จักในบทบาททำให้ผู้ชมรู้สึกดีกับบทบาทต่างๆ ปรบมือให้ ญาดา นาริยะ แม้ว่าเธอจะเป็นนักแสดงสาวที่เล่นมาบ้างแล้วก็ตาม แต่ในเรื่องนี้เธอได้พบกับรูปปั้นหิน
แต่เธอก็ไม่กลัวการต่อสู้เช่นกัน ตัวละครของเธอค่อนข้างหนัก เล่นเป็นคนธรรมดาก็ยากแล้ว สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการเล่นเป็นคนที่ผิดปกติ และการแสดงออกทางสีหน้าของเธอคิดว่ามีส่วนสำคัญต่อภาพยนตร์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
แต่ดาราหนังตัวจริงต้องยกให้ “สาวณี อุทุมมา” คนนี้ไม่ต้องพูดถึง แม้ว่าเราจะเห็นเธอเล่นบทสมทบครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เอาฝีมือการแสดงของเธอไปเทียบชั้นครูได้เลย คือ เธออยู่ในทุกฉากของหนังเรื่องนั้น แข็งแกร่งอย่างบ้าคลั่งจนเธอกลายเป็นตัวละครที่ช่วยหนังเรื่องนี้ได้จริงๆ นี่คือการแสดงที่ปล่อยออกมาในรูปแบบขนาดเล็กมาก หัวใจและท่าทางจะออกมาโดยอัตโนมัติ ต้องยกให้เธอจริงๆ
อีกหนึ่งองค์ประกอบในหนังเรื่องนี้ที่ต้องชื่นชม ซึ่งจะเป็นการออกแบบศิลปะในฉากต่างๆ พิธีกรรมฉากดูขลังและง่ายดาย คณะทำงานค่อนข้างพอใจในเรื่องนี้ ยิ่งได้บรรยากาศของพื้นที่จังหวัดเลยและภาคอีสานตอนบนประกอบกับที่ตั้งของป่าฝนเขตร้อนริมแม่น้ำโขงยิ่งดูยิ่งศรัทธากับบรรยากาศของหนัง
Upload Image...
สรุปความดี และ สิ่งที่ผิดพลาดในภาพยนต์
อย่างที่ฉันพูดไป หนังเรื่องนี้มีหลายอย่างที่เป็นไปได้ น่าเสียดายที่ภาพยนตร์เรื่องนี้มีมะเร็งในตัวเอง
ผมไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนคิดหรือเป็นผู้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในการนำเสนอรูปแบบสารคดีนี้ แน่นอนว่าจุดแข็งของมันคือสร้างความสมจริงในแบบที่ผู้คนคุ้นเคยกับการมองเห็นความเป็นจริง ย้ายกล้องและถือคำถามกล้องจากบรรทัด
การปรากฏตัวตามปกติของทีมงานดูเหมือนจริง และเป็นคำถามว่าจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องใช้วิธีสร้างสารคดีหลอกๆ ย่าบาหยัน netflix กับสิ่งที่ภาพยนตร์มีอยู่แล้วและสิ่งดีๆ ทั้งหมด เพราะสิ่งที่ทำให้เสียไปอย่างสิ้นเชิงคือการโฟกัสที่ภาพหรือเน้นความสวยงามและความลึกลับของฉากที่คิดมาอย่างดี ผู้ชมมีสิทธิ์รู้สึกถูกเตะออกจากภาพยนตร์ด้วยความอิ่มอกอิ่มใจอย่างกะทันหัน รู้ว่ามีลูกเรือปลอมอยู่ที่นี่ และทั้งหมดก็เป็นสารคดีปลอม
ในตอนแรกฉันยังรู้สึกว่าแนวทางของสารคดีนี้เป็นมะเร็งของภาพยนตร์ มันซ้ำซ้อนแต่เขายังคงประคองตัวเองต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะรุนแรงขึ้น ตัวละครเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดเนื้องอกก็เริ่มกลายพันธุ์เป็นเนื้องอกร้าย
ในตอนแรก สารคดีปลอมเป็นเพียงการติดตามผลการถ่ายทำ ถามคำถามบางอย่าง แต่ก็ยังเห็นความพยายามที่จะไม่เข้าร่วมกับหัวข้อนี้ สื่อสารกับผู้ชมเป็นระยะผ่านข้อความบนพื้นหลังสีดำ มันเป็นแค่เนื้องอก และจนกระทั่งทีมงานได้บันทึกภาพคุณย่าตาบอดในงานศพ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านั่นคือคนหรือผี
แม้แต่เท้าอันล้ำค่าที่เขาเพิ่งก้าวออกไปก็ไม่กลัว เราก็เลยเริ่มถามทีมงานสารคดีว่าใช่คนจริงๆ หรือเปล่า? เมื่อตัวละครมิ้งค์เริ่มอารมณ์เสียใส่คนรอบข้าง ตากล้องที่อยู่ใกล้มิ้งค์ที่สุดกลับกลายเป็นสุญญากาศที่มิ้งค์เพิ่งเดินผ่าน แม้ว่าเราคือมิ้งค์ที่พยายามอาละวาดใส่มิ้งค์ก็ตาม ช่างภาพที่ติดตามผมน่าจะโดนเขาก่อน
ดังนั้นสื่อจึงไม่ใช่ภาพยนตร์ที่สมบูรณ์แบบ และการใช้สูตรสารคดีหลอกของภาพยนตร์ก็เกือบจะล้มเหลว บทยังดูไม่แรงพอ หนังเรื่องนี้พยายามสร้างความน่าสะพรึงกลัวมากเกินไป เรื่องราวเริ่มต้นด้วยมุมมองที่ชัดเจนและน่าสนใจ
แต่ความชอบคือการงัดสูตรสำเร็จเดิมๆ สิ่งนี้ทำให้ความสนุกน้อยลงในการติดตามจากสิ่งที่เริ่มต้นจากรูปร่างที่สวยงามกลายเป็นชิ้นส่วนขนาดกลางที่มีสิ่งของกระจัดกระจายไปทั่ว สรุป…หนังไม่ได้น่ากลัวมาก
Upload Image...
