รีวิว Gangster อันธพาล หนังในแนวแก๊งมาเฟียครองเมืองสนุกๆ

สวัสดีทุกคน วันนี้เราจะมา รีวิวหนังไทย เรื่อง Gangster 2012 อันธพาล หนังไทยแนวมาเฟียครองเมือง ที่ดีอีกหนึ่งเรื่อง และ ถูกใจวัยรุ่นอย่างมากมาย เป็นการเล่าเรื่องจากเรื่องจริงผสมไปด้วย และ เราจะมาพูดถึงจุดเด่น และ จุดด้อยของภาพยนต์ไทยเรื่องนี้ และสุดท้ายก่อนไปอ่านบทความรีวิว ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าบทความนี้เป็นเพียงความคิดส่วนตัวของแอดมินแบบส่วนตัวเท่านั้น ไปอ่านกันเลย

รีวิว หนังไทยแอ๊คชั่นผสมดราม่า เรื่อง Gangster อันธพาล

2499 อัน ธ พาน ครองเมือง netflix นี่คือภาพยนตร์แอคชั่นดราม่า ยุคนั้นได้รับการตอบรับอย่างดีจาก “Gangster” สานความหยาบช้าของอดีตให้เป็นเรื่องราวอันดุเดือดที่ประชันฝีมือกับทีมนักแสดงมากความสามารถ
อันธพาลถือเป็นวีรบุรุษในสมัยที่อันธพาลเป็นที่รู้จักทั่วราชอาณาจักรไทย ในยุคนั้นมีคนนับถือมาก ก่อนเกิดอุบัติเหตุ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ประกาศกฎหมายว่าด้วยซ่องโจร กวาดล้างโจรจากฮีโร่สู่ผู้ร้าย รอดคุกทันที และบางรายถูกยิงตายข้างถนนอย่างไร้ศักดิ์ศรี รวมถึงดาราดัง แดง-จ๊อด ที่ติดคุกนานถึง 4 ปี เรื่องมันยาว
ตั้งแต่ยุคร็อคจนถึงยุคฮิปปี้ อันธพาลจ๊อดและแดงกลับมาพร้อมกับเส้นทางอันธพาลที่กำหนดไว้แล้ว แดงชวนจู๊ด รวมทีมกับแก๊งเจ้าพ่อเจ้าพ่อใหญ่โดยสวมบทบาทเป็นเจ้าพ่อบาร์และทวงหนี้ จนได้พบกับ ทอง และ เปี๊ยก อันธพาลรุ่นเยาว์ที่หล่อเหลาที่สุด พวกเขายกทั้งคู่ให้เป็นฮีโร่ระดับสูงและกลายเป็นอันธพาลในดวงใจ ฝันอยากเป็นนักเลงดังเหมือนแดงกับจ๊อด
แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อ Joad เริ่มเห็นและเข้าใจความหมายของอุตสาหกรรมนรกอย่างแท้จริง การใช้กำลังไม่ใช่วิธีที่จะได้รับความเคารพ ทัศนคติและมุมมองที่แตกต่างกันของคนสองช่วงวัยเป็นกระจกเงาให้กันและกันได้เรียนรู้ ชะตากรรมของพวกเขาจะเป็นอย่างไรใน “อดีตชาติ” และ “ชีวิตที่กำลังจะเติบโต” ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงและความขัดแย้ง เมื่อพวกเขาเลือกไปทางอันธพาล
ผลงานล่าสุดของผู้กำกับ ก้องเกียรติ โขมศิริ “อันตพล” น่าจะเป็นหนังไทยยอดเยี่ยมอีกเรื่องในปีนี้ และเมื่อประกาศในปีหน้าก็น่าจะได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์จากหลายสถาบัน เพราะเป็นหนังไทยที่ทำดี ทำดี นักแสดงดี และมีวิธีเล่าเรื่องที่สร้างสรรค์และน่าสนใจแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในภาพยนตร์ไทยเรื่องใด แถมยังเป็นหนังไทยที่กล้าพูดเลยว่าควรสนับสนุน
เหมือนเป็นความตั้งใจของก้องเกียรติที่จะทำหนัง “อันธพาล” และอยากทำหนังแก๊งสเตอร์เกี่ยวกับวงการมาเฟียไทยและผมอยากเล่าเรื่องของคนเหล่านี้จากมุมมองของมนุษย์ธรรมดาๆ แต่ยังขยายขอบเขตของเรื่องราวไปสู่แง่มุมทางประวัติศาสตร์อีกด้วย ทางออกและเส้นทางชีวิตของคนที่เข้ามาในวงการนี้ จะเจออะไร และจะจบลงอย่างไร การรับรู้ร่วมสมัยของอุตสาหกรรมคืออะไร? โดยมีจ๊อด ฮาววี่ (กฤษดา สุโกศล แคลปป์) เป็นแกนหลัก ก้องเกียรติผสมผสานการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์ทั่วไปเข้ากับรูปแบบสารคดีในแนวทางการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ และจุดรวมทั้งหมดข้างต้น
Gangster

พล๊อตของภาพยนต์ที่ผู้กำกับจะสื่อ

ผู้กำกับก้องเกียรติแนะนำให้เรารู้จักกับจ๊อด ฮาววี่ ชายหนุ่มที่มีความคิด สุภาพ เป็นที่รักของแม่และพี่สาว ภาพที่ผมเห็นก่อนคือนักเลงฆ่าคนบ้าระห่ำและเหี้ยมโหดซึ่งเป็นมือขวาของแดงและเป็นเพื่อนที่ดีของใบเล (สมชาย เก่งอักษร)
Joad เคยเป็นช่างหนุ่ม และโน้มน้าวให้แดงเข้าสู่ธุรกิจอันธพาล Joad รู้สึกจำเป็นต้องช่วยเหลือเขาเมื่อเขามีปัญหากับโรงเรียนเทคนิคคู่แข่ง แดงจับจ๊อดกลายเป็นนักเลงของเฮียหลอ มาเฟียกระหายอำนาจและไหวพริบ
ตอนที่แนะนำและเล่าเรื่องของจ๊อดให้เราฟัง ผู้กำกับ ก้องเกียรติ ใช้วิธีการทำสารคดีและขอให้ผู้รู้เรื่องราวในยุคนั้นช่วยเล่าเรื่องในรูปแบบการสัมภาษณ์ นอกจากการใส่ภาพสื่อเก่ามาช่วยเล่าภาคผนวกและเกร็ดประวัติศาสตร์เกี่ยวกับตัวละครและวงการ เช่น ฉากที่จ๊อดดวลกับเฮียเส็ง (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง)
ผู้กำกับให้คนที่รู้เรื่องประวัติศาสตร์มาร่วมแสดงด้วย วิธีการดวลที่เรียกว่า “มีดเหน็บ” หยุด” ที่จ๊อดกับเฮียเซ้งใช้นั้นเป็นยังไง หรือขณะที่พูดถึงตัวละครบางตัวเช่น 2499 อัน ธ พาน ครอง เมือง เต็มเรื่อง เต๋า เป็น แดง ไบเล่ หรือ ปุ๊ ระเบิดขวด ก็ให้ผู้คนมาเล่าเสริมว่ามุมมองที่คนสมัยนั้นที่มีต่อทั้งคู่เป็นยังไง เป็นวิธีการเล่าเรื่องที่ผู้กำกับก้องเกียรติให้สัมภาษณ์ว่าได้แรงบันดาลใจจาก District 9 ส่วนตอนที่ผมดูนั้นนึกถึงหนังฉายทีวีเรื่อง Execution of Justice ว่าด้วยการคดีฆาตกรรมฮาร์วี่ มิลค์ ที่ใช้การสัมภาษณ์ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีมาเล่าคู่ไปกับส่วนที่เป็นภาพยนตร์
Gangster

การดำเนินเรื่อง ในช่วงแรกของหนัง

นอกจากนี้แล้ว 2499 อัน ธ พาน ครอง เมือง เต็มเรื่อง ยังมีการเล่าเรื่องวงในของมาเฟียผ่านมุมมองของเปี๊ยก (กฤษฎา สุภาพพร้อม) เด็กวัยรุ่นที่อาศัยและทำงานอยู่ในโรงหนังที่แดงกับจ๊อดชอบไปดูหนังบ่อยๆ เปี๊ยกมีเพื่อนรักชื่อธง (สาครินทร์ สุธรรมสมัย) และทั้งคู่ก็มีแดงกับจ๊อดเป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิต มองภาพของนักเลงรุ่นใหญ่ยุคนั้นว่าเป็นอะไรที่เท่ ใครไปไหนก็เกรงกลัวและนบนอบ จึงอยากที่จะเข้าแก๊งและเจริญรอยตาม ทำให้หนังมีส่วนคล้ายคลึงกับ The Godfather: Part II เพิ่มเข้ามา และหนึ่งชั่วโมงแรกของหนังก็ใช้วิธีการเล่าเรื่องทั้งสามขนานกันไป มีการตัดต่อสลับไปมา มีการเล่าเรื่องทั้งไปข้างหน้าและย้อนหลังแบบโดดไปโดดมาคล้าย The Social Network
การใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างเทคนิคการเล่าเรื่องใหม่ ๆ เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม และขอชมเชยในความกล้าที่จะฉีกกรอบการเล่าเรื่องของหนังให้แตกต่างจากหนังไทย แต่ถึงกระนั้นผู้กำกับก้องเกียรติก็ยังใช้การเล่าเรื่องแบบใหม่นี้ไม่ได้อยู่ดี
โดยเฉพาะในชั่วโมงแรกของหนัง นั่นเป็นเพราะรูปแบบการเล่าเรื่องทั้งสามแบบนี้ดูเหมือนจะมีเรื่องราวของตัวเอง และหนังก็เล่าเรื่องราวโดยให้ไตรภาคมีความสัมพันธ์กันเกือบเท่ากัน มีการระบุรายละเอียดมากเกินไป ทำให้ต่อสู้กันเพื่อสถานะและข่มอารมณ์ดราม่าของหนังยุคนี้จนจบแม้จะดูโก้เก๋
จากนั้นจ๊อดเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของหนังที่วู้ดดี้เข้าฉายหลังจากที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ปราบปรามเหล่าร้ายอย่างโหดเหี้ยม และเพื่อดึงเอาความเข้มข้นของหนังแก๊งค์สเตอร์กลับมาให้ดูน่าสนใจมากขึ้น หนังจึงลดส่วนของสารคดีให้เหลือส่วนที่เป็นจริงมากขึ้น และส่วนของมุมมองของ Piack ก็ค่อยๆ ลดลงมาอยู่ในความรับผิดชอบของโครงเรื่องรอง
ครึ่งหลังมุ่งเน้นไปที่มาเฟียที่แย่งชิงอำนาจ เจ้าพ่อทุกคนมีนักเลงชื่อดังเป็นลูกน้อง จ๊อดยังคงเป็นเบี้ยในเกมชิงอำนาจของเฮียหลอ โดยมีเปี๊ยก ธง และแหนม (บุญส่ง นาคภู่) เป็นสมุน กลายเป็นม้าศึกตัวฉกาจของเฮียหลอเมื่อเขาเปลี่ยนตัวเป็นโอ๋ตี๋ (ภัคจันทร์ โวอ่อนศรี) ชายผู้ บ้าทั้งคู่ นักฆ่าอันธพาลอีกคนที่คลั่งไคล้ ทั้งโหดเหี้ยมและเหี้ยมโหดข่าวชิ้นใหม่ทำให้แก๊งของโจ๊ดแตก ขณะเดียวกัน โจ๊ดก็ต้องหนีจากแม่ทัพ (วสุ แสงสิงแก้ว) ที่ไม่เคยคิดว่าจะปราบมาเฟียได้อย่างไร และสะท้อนด้านมืดของผู้มีอำนาจทางกฎหมาย แก้แค้นของคุณในตอนจบที่ตื่นเต้น ลุ้นระทึก และสะเทือนใจ
Gangster

จุดเด่นหลักๆของภาพยนต์ Gangster อันธพาล ไม่พ้นนักแสดงแน่นอน

อีกหนึ่งองค์ประกอบที่น่ายกย่องของภาพยนตร์เรื่องนี้คือความเป็นศิลปะ ทั้งคู่สร้างฉาก กำกับศิลป์ ออกแบบเครื่องแต่งกายและทรงผม เทคโนโลยีภาพ และเพลงประกอบ ช่วยสร้างเมืองหลวงในยุค 60-70 ได้อย่างราบรื่นจนเหมือนพาเราเข้าสู่ยุคนั้น ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ยังเสริมให้ผู้กำกับก้องเกียรติมีน้ำเสียงที่ดิบและแข็งกระด้างซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของผู้กำกับ
นักแสดงทุกคนแสดงได้สมบทบาทและดีมากๆ แต่ที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือ บุญส่ง นาคภู่ รับบทเป็น น้ำ นักเลงเก่าช่างพูดที่ขอหลีกหนีจากวิถีอันธพาลและใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป บทนี้ดูเป็นธรรมชาติเหมือนสิ่งที่เราเห็นมีอยู่จริง กฤษดา สุโกศล แคลมป์เก่งที่ทำให้ตัวละครจ๊อดดูเหมือนสามัญชน เสน่ห์ล้นจอ ชวนติดตามหนัง
อันธพาลอาจไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์แบบหรือสมบูรณ์แบบ 100% แต่นี่คือหนังที่มีองค์ประกอบครบทั้งงานสร้างที่ยอดเยี่ยม ผู้กำกับก้องเกียรติพยายามอย่างน่าชื่นชมในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวละครที่แตกต่างออกไป มันสร้างสรรค์มากพอที่จะทำให้แฟนๆ คอยสนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้
2499 อัน ธ พาน ครอง เมือง จ๊อด หนังผสมผสานการแนะนำตัวละครของ Joad กับเทคนิคกึ่งย้อนอดีตและนิยามครึ่งๆ กลางๆ ของคำว่า “อันธพาลไทย” ต้องตายข้างกรรมกร ราวกับพยายามสร้างภาพคู่ขนานของความแตกต่างและศักดิ์ศรีระหว่าง “อันธพาล” และ “อันธพาล” ขณะเดียวกัน ผู้กำกับยังใช้เทคนิคการเล่าเรื่องแบบสารคดีเพื่อจับใจความของผู้คนในยุคนั้น
บรรยายเหตุการณ์เด่นพร้อมภาพข่าวที่สอดแทรกอยู่เนืองๆ ช่วยทำให้หนังกึ่งสารคดีมาเฟียแอคชั่น บทเรียนประวัติศาสตร์อันธพาลไทยในยุคหิน ราวกับจะแทนคำตอบของคำถามมากมายที่ผู้คนมีทุกวันนี้ พูดถึงโลกนักเลงสมัยนั้น ทั้งวัฒนธรรมการดวลดาบ บุคลิกของนักเลงปูชื่อดัง ธนะรัชต์เข้าระงับเหตุอันธพาลทั้งเมือง ตำรวจมาเฟียแทนที่อันธพาล
ถ้าเทียบกันที่ภาพก็ต้องว่าผู้กำกับ ก้องเกียรติ โขมศิริ ทำหนังแนวออริจินัลอันธพาลข้างถนนอย่าง Goodfellas บวกกับสไตล์การตัดต่อแบบคลีนๆ โป๊ๆ แบบ Pulp Fiction การเล่าเรื่องในครึ่งแรก โดยรวมแล้ว หนังตลก ตึงเครียด
และรอบด้านดี แม้ว่าจะมีตัวละครมากมายในภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ผู้กำกับ Conjit ก็สามารถถ่ายทอดตัวละครในภาพยนตร์ได้อย่างเต็มตา โดยยังคงโมเมนตัมของพล็อตหลักของหนังไว้ได้ ปัญหาการวนลูป ของนักเลงไทย แบ่งได้เป็น 4 ลำดับหลัก สร้างชื่อ – แจ้งเกิด – มีอำนาจ – ตายอย่างหมา / หาทางออก แม้ว่าตัวหนัง ยังคงประกาศบทบาทตำรวจต่อสังคมอย่างตีกลอง Evil แต่ก็ดูเหมือนอันธพาล

สรุปเนื้อหาภาพยนต์และการรีวิวโดยส่วนตัว

หนังเรื่อง อันธพาลครองเมือง 2012 แสดงให้เห็นวงจรอันธพาลและผู้มีอำนาจในยุคนั้นจริงๆ ในยุครุ่งเรือง การมีเครื่องมือที่จะเปลี่ยนวัฏจักรบ้าๆ นี้จาก “อันธพาล” เป็น “ยุคตำรวจมืด” นั้นมีอำนาจ หนังดูเหมือนจะตั้งคำถามถึงศีลธรรมของผู้มีอำนาจในสังคม ถ้าคนมีคุณธรรมสูง ซ่องโจร ส่วยทุจริต วงจรอุบาทว์เหล่านี้จะไม่มีให้เห็นในสังคม
อย่างที่บอกผู้กำกับก้องเกียรติทำหนังเรื่องนี้เป็นละครสุ่มเพื่อประกาศให้คนรู้ว่าความชั่วมีไว้สำหรับคนที่มีอำนาจเท่านั้น ไม่ใช่แค่กับพวกอันธพาลแต่รวมถึงกลุ่มคนผิวสีที่นั่งหน้าหล่อๆยังมีอีกเยอะ พลังคือสิ่งที่คุณได้รับ ในการวิเคราะห์สุดท้าย ความตายไม่สงบ และร่างกายก็สวยงามอย่างที่คิด
กำกับและเขียนบทโดย “โขม – ก้องเกียรติ โขมศิริ” เจ้าพ่อหนังแอคชั่นทุกประเภทของวงการหนังปัจจุบันยังคงนำทีมนักแสดงแถวหน้าของวงการ ไม่ว่าจะเป็น “น้อย วงษ์ปรือ”, “บิ๊ก กฤษดา” “, “เต๋า สมชาย” หรือ “เจี๊ยบ วสุ”
ม็อบอาจไม่ประสบความสำเร็จมากนักในแง่ของรายได้ แม้ว่าคำวิจารณ์ของหนังจะออกมาค่อนข้างดี ภาพยนตร์เรื่องนี้โกยเงินตลอดการฉายประมาณ 25 ล้านบาท แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังมีชื่อติดโผบนเวทีรางวัลต่างๆ ในปีนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้เงินกลับบ้านมากนัก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *